มาตรฐานและข้อกำหนดของกรมทางหลวงในการติดตั้งโคมไฟถนน
ถ้าพูดถึงไฟถนนทางหลวง หลายคนอาจคิดว่าแค่มีไฟให้สว่างก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือ การติดตั้งโคมไฟถนน โดยเฉพาะบนถนนในความดูแลของกรมทางหลวงนั้น มีข้อกำหนดและมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ความสว่างที่เหมาะสม การประหยัดพลังงาน และความทนทานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
เราจะพาไปดูกันว่า กรมทางหลวงมีมาตรฐานอะไรบ้างเกี่ยวกับการติดตั้งโคมไฟถนนLED เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และตรงตามหลักวิศวกรรมแสงสว่างที่เป็นที่ยอมรับ พร้อมทั้งอธิบายให้เข้าใจง่าย เหมาะกับทั้งคนทั่วไป ผู้รับเหมา หรือเจ้าของโครงการที่ต้องการวางระบบแสงสว่างบนท้องถนน
ทำไมต้องมีมาตรฐานโคมไฟถนน
โคมถนนไม่ได้มีไว้แค่ให้สว่างเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือคนเดินเท้า โดยเฉพาะในพื้นที่ทางแยก ทางกลับรถ หรือบริเวณที่ไม่มีแสงธรรมชาติ
นอกจากนี้ แสงสว่างจากไฟถนนยังช่วยให้สามารถมองเห็นป้ายจราจร เส้นถนน และสิ่งกีดขวางได้ชัดเจนขึ้น ดังนั้น การติดตั้งโคมไฟถนนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการให้แสงเท่านั้น แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความเหมาะสมต่อการใช้งานในระยะยาว
ประเภทของโคมไฟถนนที่กรมทางหลวงรับรอง
ปัจจุบันกรมทางหลวงให้ความสำคัญกับการเลือกใช้โคมไฟถนน เนื่องจากมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็เหมาะกับพื้นที่และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน
ประเภทของโคมไฟที่เลือกใช้จะต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล และต้องมีค่า IP Rating ไม่ต่ำกว่า IP65 เพื่อให้มั่นใจว่าโคมจะไม่เสียหายง่ายจากฝน ละอองน้ำ หรือฝุ่นละอองที่มากับสภาพแวดล้อมบนถนน
- โคมไฟถนน LED (Light Emitting Diode)
ปัจจุบันโคมไฟถนน LED เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะประหยัดพลังงานสูง อายุการใช้งานยาวนาน และให้แสงสว่างที่มีคุณภาพดี กรมทางหลวงได้กำหนดให้โคมไฟ LED ที่ติดตั้งต้องมีคุณสมบัติดังนี้
กำลังไฟฟ้าไม่เกิน 150 วัตต์
ค่าความสว่างไม่น้อยกว่า 120 ลูเมนต่อวัตต์
อุณหภูมิสีอยู่ระหว่าง 5,000-6,000 เคลวิน (แสงขาวนวล)
ดัชนีความถูกต้องของสี (CRI) ไม่ต่ำกว่า 70
อายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 50,000 ชั่วโมง
- โคมไฟโซเดียมความดันสูง (High Pressure Sodium)
แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่เก่ากว่า แต่โคมไฟโซเดียมก็ยังคงมีการใช้งานอยู่ในหลายพื้นที่ โดยมีข้อกำหนดดังนี้
กำลังไฟฟ้า 250-400 วัตต์
ให้แสงสีเหลืองอมส้ม ช่วยในการมองเห็นในสภาพหมอกหรือฝนตก
ค่าความสว่างประมาณ 80-140 ลูเมนต่อวัตต์
อายุการใช้งานประมาณ 24,000 ชั่วโมง
- โคมไฟเมทัลฮาไลด์ (Metal Halide)
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมาก เช่น ทางแยก สะพาน หรือจุดเสี่ยงอันตราย
กำลังไฟฟ้า 250-400 วัตต์
ให้แสงสีขาวสว่าง ช่วยในการแยกแยะสีได้ดี
ค่าความสว่างประมาณ 75-125 ลูเมนต่อวัตต์
อายุการใช้งานประมาณ 15,000-20,000 ชั่วโมง
ข้อกำหนดในการติดตั้งโคมไฟถนน
การติดตั้งโคมไฟถนนไม่ใช่แค่เอาไปติดตั้งตามใจชอบ แต่มีข้อกำหนดที่ละเอียดและสำคัญมาก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนน
ระดับความสว่างที่เหมาะสม
กรมทางหลวงได้กำหนดค่าความสว่างของโคมถนนในหน่วย “ลักซ์ (Lux)” ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดความเข้มของแสงที่ตกกระทบบนพื้นผิวถนน โดยต้องสอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมแสงสว่างเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ค่าความสว่างจะขึ้นอยู่กับประเภทของถนนเป็นหลัก โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
ทางหลวงพิเศษ (Motorway): กำหนดไว้ที่ประมาณ 15–22 ลักซ์
ทางหลวงสายหลัก: อยู่ที่ประมาณ 10–15 ลักซ์
ทางหลวงสายรอง: อยู่ที่ประมาณ 7–10 ลักซ์
ถนนในเขตชุมชน: ความสว่างควรอยู่ที่ประมาณ 5–10 ลักซ์
ทางเท้า: ควรมีความสว่างประมาณ 3–5 ลักซ์
นอกจากนี้ สำหรับจุดที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น ทางแยก ทางกลับรถ หรือบริเวณที่มีการเปลี่ยนทิศทางกระทันหัน ควรมีค่าความสว่างสูงกว่ามาตรฐานของถนนปกติ ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตัดสินใจได้ทันท่วงที ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
ความสูงของเสาไฟและระยะห่างในการติดตั้ง
ความสูงของเสาไฟถนนและระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้นเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยกรมทางหลวงมีแนวทางที่ใช้กันทั่วไป ดังนี้
เสาไฟสูง 4-7 เมตร: ทางเท้าและพื้นที่ชุมชน
เสาไฟสูง 7-9 เมตร: ใช้กับถนนขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ถนน 2-4 เลน
เสาไฟสูง 9-12 เมตรขึ้นไป: เหมาะสำหรับถนนขนาดใหญ่หรือทางหลวงพิเศษ
ในส่วนของระยะห่างระหว่างเสา จะพิจารณาจากความสูงของเสาไฟและมุมกระจายแสงของโคมไฟ โดยทั่วไป
ถนนสายหลัก: 30-40 เมตรต่อเสา
ถนนสายรอง: 35-45 เมตรต่อเสา
ทางเท้า: 20-25 เมตรต่อเสา
หากถนนมีความกว้างมาก อาจเลือกใช้การติดตั้งแบบสลับซ้ายขวา หรือสองข้างถนน เพื่อให้แสงกระจายทั่วถึง
มาตรฐานด้านเทคนิคและความปลอดภัยของโคมไฟ
โคมไฟถนนทางหลวงต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานวิศวกรรมและความปลอดภัย เช่น
ผ่านการรับรอง มอก. หรือมาตรฐานสากล เช่น CE, RoHS, ISO
มี Surge Protection เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟกระชาก
ใช้โครงสร้างวัสดุที่ทนต่อแรงลม ความชื้น และแสงแดด
รองรับการติดตั้งร่วมกับระบบ Smart Lighting หรือระบบควบคุมการเปิดปิดอัตโนมัติ
ติดตั้งระบบสายดินและการป้องกันไฟรั่วอย่างเหมาะสม
หากโคมไฟไม่ผ่านมาตรฐานเหล่านี้ อาจเกิดปัญหาในระยะยาว เช่น ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น การเสื่อมของแสงเร็วกว่าที่ควร หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร
สรุป
การติดตั้งโคมไฟถนน ที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของกรมทางหลวง ไม่เพียงแค่ช่วยให้ถนนมีแสงสว่างที่เพียงพอเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ และประหยัดพลังงานในระยะยาว การเลือกใช้โคมถนนที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี ความสว่าง วัสดุ และความปลอดภัยในการใช้งาน ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกแบบหรือติดตั้งโคมไฟถนนควรศึกษาข้อกำหนดต่างๆ ของกรมทางหลวงให้ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
หากคุณกำลังวางแผนโครงการติดตั้งไฟถนน การเริ่มต้นด้วยความเข้าใจในมาตรฐานและข้อกำหนด จะช่วยให้โครงการของคุณไม่สะดุด และได้ผลลัพธ์ที่ทั้งคุ้มค่าและยั่งยืน เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญในทุกพื้นที่ของชีวิต RICHEST SUPPLY ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แสงสว่างไม่ว่าจะเป็นโคมไฮเบย์ โคมไฟสปอร์ตไลท์ โคมไฟถนน เสาไฟถนน และ หลอดไฟ LED พร้อมให้คุณได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ไฟคุณภาพที่ทั้งประหยัดพลังงานและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @richestsupply หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled