จัดแสงไฟ ด้วยหลอดไฟ LED ในห้องนอน ให้ไม่แสบตาเทียบโรงแรม 5 ดาว
หลายๆคนอยากให้ห้องของเรานั้นสวยงาม มีหลอดไฟสวยๆ แต่ถ้าเราคำนวณแสงไม่ดีอาจทำให้แสงจาก หลอดไฟ led แยงตาทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ แต่หากดวงตาใช้งานหนักไปก็อาจส่งผลกับสภาพจิตใจและชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่ต้องใช้งานสายตามากเป็นพิเศษ หลายๆคนทำงานที่บ้านโดยผ่านคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านโทรศัพท์มือถือ พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้สายตาของเราโดยตรง ถ้าเราจัดแสงได้ไม่มีอนาคต ดวงตาของเราอาจเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน เร็วกว่าที่คิดใว้
ขอแนะนำวิธีการจัดแสงไฟภายในห้องนอน เพื่อลดแสงสะท้อนแยงตา ซึ่งเป็นแนวทางที่เหล่าอินทีเรียดีไซน์นิยมใช้ในการตกแต่งแสงไฟภายในโรงแรม เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าพักอยากพักเกิดอารมณ์พักผ่อนอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น วิธีเหล่านี้เป็นเสมือนการพักสายตา ช่วยถนอมดวงตาจะได้มีดวงตาที่แข็งแรงอยู่กับเราไปนาน ๆ เคล็ดลับในการจัดแสงไฟภายในรีสอร์ตและโรงแรมหรูต่าง ๆ อยู่ที่การสร้างบรรยากาศให้ดู สงบ สลัว และสุนทรี
เนื่องด้วยจุดประสงค์หลักของการใช้ห้องนอนจะมุ่งเน้นการนอนหลับพักผ่อน ในทางฮวงจุ้ยยังมีบอกไว้ด้วยว่า ห้องนอนที่ดีควรจัดให้เอื้อต่อพลังงานหยิน จะช่วยเสริมสร้างพลังงานชีวิตให้แก่ผู้พักอาศัย การจัดพลังงานหยินภายในห้องนอนก็คือการควบคุมปริมาณแสงสว่างจาก หลอดไฟ led ให้เหมาะสมนั่นเอง แสงไฟที่ดีภายในห้องนอนจะต้องช่วยให้ผู้พักรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา วันนี้เรามีเทคนิคดีๆมาฝากทุกท่านกัน
การจัดแสงไฟจาก หลอดไฟ LED ในห้องนอน ไม่ให้แสงแยงตา มีดังนี้
1.ตำแหน่งไฟ ไม่ควรส่องตรงตำแหน่งเตียงนอน
จุดติดตั้ง หลอดไฟ led หากจัดตำแหน่งปรับมุมองศาไฟไม่ลงตัว ห้องที่คิดว่าจะอยู่สบายที่สุดกลับทำให้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในห้องทั่วไปมักจะออกแบบไฟหลักไว้ในตำแหน่งที่ตรงกับเตียง ซึ่งจะทำให้องศาของแสงไฟส่องลงมาตรง ๆ บริเวณที่นอน ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกแสบตา จึงควรวางตำแหน่งติดตั้งไฟเอาไว้ในจุดอื่นที่ไม่กระทบสายตา เช่น บริเวณด้านข้างของเตียงหรือบริเวณบนหัวนอนข้างเตียง 2 ด้าน จะให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการอยู่จุดตรงกลางห้อง
2.ไฟซ่อน ไฟหลืบ
เทคนิคการจัดตกแต่งไฟในห้องนอนแบบ Indirect Lighting หรือ ไฟซ่อน ไฟหลืบ แบบที่ใช้ในหลุมฝ้าเพดาน หลังเตียง เริ่มที่เป็นที่นิยมในบ้านเรือนทั่วไปกันมากขึ้น เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างบริเวณส่วนกลางของห้องได้ดี ห้องดูกว้างขึ้นมีมิติน่าสนใจ โดยที่คุณภาพแสงไม่ทำลายสุขภาพตา เพราะเป็นแสงที่เกิดจากการสะท้อนแสงจากหลอดไฟ ส่องกระทบไปบนพื้นที่ระนาบให้ต้องการมีการส่องสว่าง จึงสามารถกระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอ แต่หากยังรู้สึกว่าแสงจ้าเกินไป ให้ใส่อะคลีลิคครอบปิดตัวหลอดไฟไว้อีกชั้นหนึ่ง ก็จะได้แสงที่ soft ขึ้น
3.ไฟส่องเฉพาะจุด
ภายในช่องเก็บของ ชั้นวางของหรือจุดสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้แสงสว่างเป็นครั้งคราว แทนที่จะเปิดไฟทั้งห้องให้เลือกเปิดเฉพาะจุด อย่างเทคนิคการใช้ไฟส่องเฉพาะจุด นิยมใช้หลอด LED ซ่อนไว้ในจุดดังกล่าว ซึ่งจะได้แสงสว่างแบบนวลตา และจะไม่ส่งผลกระทบกับคนข้าง ๆ ที่นอนร่วมกัน
4.ติดไฟเซนเซอร์ ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติใต้ขอบเตียง
เทคโนโลยีแสงไฟประดิษฐ์ใหม่ ๆ ไม่ได้มีตำแหน่งติดไฟส่องสว่างบริเวณเพดาน หัวนอน หลุมฝ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถติดที่ขอบล่างเตียงได้ด้วย ช่วยเพิ่มแสงสว่างยามลุกมาทำธุระตอนกลางคืน โดยไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง รุ่นที่แนะนำเป็นพิเศษคือหลอดไฟอัตโนมัติเมื่อมีการเคลื่อนไหว
เมื่อก้าวลงจากเตียง ไฟจะเปิดทำงานให้อัตโนมัติ เหมาะกับห้องนอนที่มีผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางคืนบ่อย ๆ ช่วยลดปัญหาการประสบอุบัติเหตุเนื่องจากหาสวิตช์ไฟไม่เจอ อีกทั้ง หลอดไฟ led ที่สว่างเฉพาะจุดนี้ยังไม่เป็นการรบกวนคนข้าง ๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่ด้วย พอได้ฟังทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว ทางเราหวังว่าจะเป็นไอเดียร์ในการจัดห้อง จัดแสงสว่าง ให้กับทุกๆท่าน ซึ่งหลอดไฟ ทางเราแนะนำให้ใช้เป็น หลอดไฟ led เพราะประหยัดไฟ และอายุการใช้งานนานกว่าหลอดประเภทอื่นนั่นเอง
หลอดไฟทุกวันนี้มีทั้ง หลอดไฟ led ยาว หลอดไฟ led กลม หรือแบบแปลกๆมากมาย ลองคัดสรรห์สิ่งที่คุณชอบแล้วทำตามคำแนะนำกัน