สปอร์ตไลท์ High pressure VS สปอร์ตไลท์ LED

สปอร์ตไลท์ High pressure VS สปอร์ตไลท์ LED

สปอร์ตไลท์ High pressure VS สปอร์ตไลท์ LED

ถ้าหากเราหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งในปัจจุบันนี้ ทุกๆ ที่ก็คงให้ความเห็นตรงกันว่า โคมสปอร์ตไลท์ LED เหนือกว่า โคมสปอร์ตไลท์ High pressure แน่นอน ทั้งเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ความสว่างที่สูงกว่า และประหยัดไฟมากกว่า 30% – 50% เมื่อเทียบกับจากความสว่างที่เท่ากัน
นั่นคือสาเหตุที่ผู้คนทั่วไปเปลี่ยนจากโคมสปอร์ตไลท์ High pressure มาเป็นโคมสปอร์ตไลท์ LED เกือบทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วเรายังคงเห็นว่า โคม High pressure นั้นยังคงมีการผลิตและซื้อขายกันอยู่มากมาย ไม่ได้หายไปซะทีเดียว นั่นเป็นเพราะอะไร เรามาดูปัจจัยในการเลือกซื้อระหว่าง Flood light High pressure และ

 

สปอร์ตไลท์ High pressure VS สปอร์ตไลท์ LED

ปัจจัยในการเลือกซื้อ โคมไฟสปอร์ตไลท์LED

1.แสงที่ส่องออกมาของหลอดไฟ
จะมีให้เลือกหลากหลายสี เช่น แสงขาว (Daylight) แสงขาวนวล (Cool White) และแสงส้ม (Warm White) รวมไปถึงสีฉุดฉาดต่างๆ เช่น แดง น้ำเงิน เขียว (จะมีในโคมบางประเภท)
สปอร์ตไลท์ High pressure มีหลอดไฟให้เลือก แค่ 2 สี คือ หลอดแสงจันทร์ (Daylight) และหลอดไฮเพรสเชอร์โซเดียม (Warm White)

2.มุมกระจายแสง (Beam angle)
– สปอร์ตไลท์ LED มีมุมกระจายแสงแตกต่างกันไป เช่น 15°, 30°, 45°, 60°, 90°, 120° รวมไปถึงมุมอื่นๆ ที่สั่งทำพิเศษ
– สปอร์ตไลท์ High pressure แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบ Symmetric แสงออกมาเท่ากันหมดทุกด้าน เพราะ หลอดเป็นแบบทรงกระบอก และแบบ Asymmetric เป็นแบบแสงพุ่งไปข้างหน้ามากกว่าออกด้านข้าง หรืออาจจะออกด้านข้าง มากกว่าข้างหน้า

3.ประสิทธิภาพการส่องสว่าง
    – สปอร์ตไลท์ LED มีให้เลือกหลายคุณภาพ หากเป็นคุณภาพแบบทั่วๆ ไปประสิทธิภาพการส่องสว่างจะอยู่ที่ประมาณ  90 – 100 lm/W แต่ถ้าหากเป็นแบบคุณภาพสูงอาจสูงถึง 170 lm/W
สปอร์ตไลท์ High pressure  ประสิทธิภาพการส่องสว่างจะน้อยกว่า 100 lm/W

4.แหล่งพลังงานที่จ่ายให้โคมไฟ
ไฟฟ้า 220V ที่ได้มาจากการไฟฟ้าส่งผ่านมาจ่ายให้บ้านเรือนทั่วไปใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท
ไฟฟ้า 220V ได้มาจากเครื่องปันไฟ
เครื่องปันไฟ มี 2 แบบ
4.1.แบบ Pure sine wave สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ LED ได้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท
4.2. แบบ Modifined sine wave ไม่สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ LED แต่เหมาะเอาไปใช้กับเครื่องปั็มน้ำ หรือ ลำโพงคอนเสิร์ต เป็นต้น
5. ลักษณะหน้างานที่เหมาะสม
– โคมประเภท LED ในสมัยแรกๆ คือ ไม่เหมาะกับหน้างานที่มีความร้อน ความชื้น สารเคมีต่างๆ แต่ปัจจุบันมี

เทคโนโลยีที่ทำให้ สามารถทนต่อสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว (อธิบายค่า IP  คืออะไร) แต่ข้อดีของมันก็คือมีอายุการใช้งานยาวนาน 5 หมื่นชั่วโมง ถ้าไม่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว น้ำหนักเบา และปล่อยความร้อนต่ำ
โคม High pressure สามารถทนต่อหน้างานได้ทุกรูปแบบ ทนทุกสภาพแวดล้อม มีอายุการใช้งาน  25,000  ชั่วโมง

หวังว่าทุกท่านคงเลือกใช้โคมสปอร์ตไลท์ได้ถูกต้อง และเหมาะกับการใช้งาน นะครับ

สนใจสปอร์ตไลท์ LED ของเราสามารถคลิกลิ้งเพื่อเลือกชมสินค้า สปอร์ตไลท์ ได้เลย